วันอังคารที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2558

สอนวาดภาพสไตล์ Impressionism

การวาดรูปปลาคาร์ฟ

      หากใครมีเวลาว่างและอยากลองวาดภาพไว้ประดับฝาผนังที่บ้านซักภาพ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง
วันนี้ผมมีบทความสาธิตการวาดภาพปลาคาร์ฟพร้อมแสดงตัวอย่างและคำอธิบายอย่างละเอียด
เอาไว้ใน Blog นี้ซึ่งเป็นรูปแบบการสร้างสรรค์เฉพาะตัวในสไตล์ Impressionism ซึ่งไม่เน้น
แสดงรายละเอียดของภาพแต่จะเน้นในเรื่ององค์ประกอบด้าน แสง สี และรูปแบบการนำเสนอที่มีผล
โดยตรงต่ออารมณ์ความรู้สึกในการถ่ายทอดผลงานไปสู่การรับรู้ของผู้ชมผลงาน





 เริ่มจากการร่างภาพปลาคาร์ฟลงบนเฟรมผ้าใบ จัดองค์ประกอบภาพโดยเน้นจุดสนใจให้อยู่กลางภาพ
ลองสมมติว่าหัวปลาคือปลายลูกศรที่ชี้กำหนดทิศทางสิครับ ถ้าคุณชี้ไปทางใหน จุดสนใจก็จะอยู่ใน
ทิศทางนั้นวิธีนี้จะช่วยให้ภาพวาดปลาคาร์ฟมีเรื่องราวและพลัง


วิธีการวาดภาพของผมจะใช้สีอะคิริกในเทคนิคการวาดแบบสีน้ำมัน คือจะบีบสีลงไปบนจานสีโดยไม่ผสมน้ำ เพียงแต่ใช้น้ำเป็นตัวควบคุมความลื่นไหลของสีเวลาระบายลงบนพื้นผ้าใบเท่านั้น เนื้อสีที่ได้จึงมี
ความข้นหนาเพื่อช่วยสร้างรอยทีแปรงที่มีมิติ (Texture)ในสไตล์ Impressionism



เริ่มจากผสม Cerulean Blue กับ Yellow Ochre เพื่อให้ได้สีเขียวใบมะกอกสำหรับ
ใช้ทาพื้นน้ำที่เป็นฉาก(ฺBackground)ของภาพ


ไล่เฉดสีไปพร้อมกันเพื่อสร้างค่าน้ำหนักของสีสว่าง ด้วยสีขาว Titanium White เกลี่ยสีเข้าหากันโดย
ไม่ต้องให้สีไล่ระดับเข้าหากันแบบกลมกลืน  เกลี่ยแบบลวกๆแต่ต้องให้สีกลบผิวผ้าใบให้แนบสนิท
ไม่เว้นช่องว่างให้เห็นลายผ้า



ระบายสีลงไปในส่วนพื้นน้ำ(ฺBackground)ให้ทั่ว โดยเว้นตัวปลาเอาไว้ ในขั้นตอนนี้สามารถทำได้รวดเร็วโดยไม่มต้องใช้ความพิถีพิถันมากนัก ซึ่งสามารถให้สีพื้นเหลื่อมล้ำเข้าไปในตัวปลาได้แต่ต้องเหลือเค้าโครงที่จำเป็นเอาไว้ ส่วนที่เป็นครีบหรือหาง ก็สามารถทับสีลงไปทีหลังจะง่ายกว่าเพราะเป็นอวัยวะที่
บางโปร่งแสงซึ่งมันจะดูกลืนเป็นสีเดียวกับพื้นน้ำ



จากนั้นก็เริ่มระบายสีของตัวปลาโดยเริ่มจากสีพื้นผิวของปลานั้นๆ ในที่นี้ผมใช้สี  Cerulean Blue กับ Titanium White ผสม Yellow Ochre นิดหน่อยเพื่อให้ได้สีฟ้าอมเขียวเป็นสีพื้นผิวของปลาที่มีสีขาว 
และเน้นรูปทรงของปลารอบๆโครงร่างด้วยสี  Prussion Blue เพื่อสร้างเงาสะท้อนของปลาที่กำลัง
แหวกว่ายอยู่ใต้ผิวน้ำ


ระบายสีแบบเดียวกันกับปลาทุกตัวที่มีพื้นผิวเป็นสีขาว โดยไม่ต้องสนใจลายจุดสีสันบนตัวปลา
นี้เป็นขั้นตอนสำคัญที่ผมใช้อยู่ สามารถทำให้เราวาดภาพปลาคาร์ฟได้รวดเร็วยิ่งขึ้น



จากนั้นก็ระบายสีพื้นของปลาที่มีผิวสีแตกต่างจากสีขาว  ในที่นี้เป็นปลาที่มีพื้นผิวสีทอง ผมเลือกใช้สี Lemon Yellow ลงพื้นโดยให้ค่าน้ำหนักด้วยสี Yellow Ochre เกลี่ยผสมกันเพื่อสร้างมิติแสงเงาที่ตกกระทบบนตัวปลา







เมื่อลงพื้นสีของปลาทุกตัวเสร็จแล้วจึงเริ่มระบายเงาที่ตกกระทบลงก้นสระใต้ตัวปลา โดยพิจารณาทิศทางจากจุดกำเนิดที่แสงกระทบบนตัวปลาด้านที่สว่างที่สุด ในส่วนตรงข้ามทิศทางของแสงนั่นคือเงาที่
ผมใช้ใช้สี Prussion Blue ผสมกับ Yellow Ochre เพื่อให้ได้สีน้ำเงินอมเขียว



การระบายเงาตกกระทบในนี้ผมจะใช้การเน้นเงาใต้ตัวปลาแบบสร้างความเคลื่อนไหว เพราะในความเป็นจริงปลาไม่ได้ว่ายน้ำอยู่นิ่งๆ ดังนั้นลักษณะของเงาที่ผมสื่อออกมาจึงมีความกระจายตัวพุ่งออกไป เพื่อหวังผลในการสร้างความรู้สึกเคลื่อนไหวในภาพเขียน


ต่อด้วยการแต้มสีขาวในการสร้างริ้วรอยของกระแสน้ำในทิศทางที่ปลากำลังแหวกว่ายอยู่ ขั้นตอนนี้
อาจต้องใช้ความเร็วในการสบัดปลายพู่กันเพื่อให้เกิดทีแปรง(Brush stroke)ที่เป็นธรรมชาติ ดูแล้ว
ไม่แข็งกระด้างและช่วยสร้างความรู้สึกของวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่




จากนั้นก็ถึงเวลาใส่รายละเอียดลงไปบนตัวปลา ในที่นี้ผมเริ่มจากปลาที่มีแต้มจุดสีแดง โดยใช้สีแดง Cadmium Red เป็นส่วนของสีที่อยู่ไกล้ ส่วนสีแดงที่อยู่ลึกลงไปใช้สีแดง Crimson Red 




พึงระลึกไว้เสมอว่า ทีแปรง(Brush stroke)เป็นเทคนิคสำคัญที่ใช้กับภาพเขียนสไตล์  Impressionism 
ดังนั้นแม้แต่แต้มจุดบนตัวปลาเราก็ยังต้องทิ้งร่องรอยของทีแปรงลงไปด้วย


เมื่อสีแต้มสีแดงจนครบทุกตัว ก็เริ่มแต้มจุดสีดำลงบนตัวปลาแต่ละตัวเป็นลำดับต่อมา เพราะสีดำ
สามารถทับลงบนสีแดงได้อย่างสนิท ในกรณีนี้ต้องรอให้สีแดงแห้งก่อนนะครับ หรือเพื่อไม่ให้เป็น
การเสียเวลา ผมจึงแต้มสีลงบนปลาสีทองที่มีจุดสีดำสลับกันระหว่างรอแต้มสีดำบนสีแดงที่ยังไม่แห้ง


ต่อมาก็แต้มดวงตาลงไปด้วยสีดำ และใส่แววตาด้วยสีขาว อาจแต้มสีฟ้าเพื่อสะท้อนลงบนตาสีดำด้วยก็ได้ แต่ต้องดูทิศทางของหัวปลาด้วยครับว่ามีองศาบิดขึ้นหรือลง เพราะภาพนี้มองจากด้านบนลงมาจึง
แทบมองไม่เห็นตาของปลาจากมุมมองนี้




ต่อมาเก็บรายละเอียดตรงส่วนที่เป็นแสงสะท้อนลงบนตัวปลา เพื่อเพิ่มมิติของวัตถุตามหลักแสงและเงา ในที่นี้ผมใช้สีขาวผสมกับสี้พื้นของปลาสีต่างๆเพื่อให้ได้สีของแสงที่สว่างขึ้น โดยแต้มลงบนผิวปลาในลักษณะที่คล้ายเกล็ดปลาบนสีนั้นๆ เช่น แต้มแสงสีแดงด้วยสีขาวอมแดง  แสงสีเหลืองด้วยสีขาวอมเหลือง เป็นต้น



จากนั้นก็เก็บรายละเอียดของภาพอีกครั้ง เป็นการดูภาพรวม ความสมจริงและตรวจหาจุดบกพร่อง


และที่ขาดไม่ได้เพื่อให้รู้ว่าภาพวาดเป็นภาพที่มองจากด้านบนผิวน้ำลงมา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีวัตถุหรือพืชลอยอยู่บนผิวน้ำ ในที่นี้ผมใช้สีเขียว Permanent Green Deep แต้มและตวัดปลายพู่กันเป็นพืชที่ลอยอยู่ โดยจัดวางองค์ประกอบตามความรู้สึก หรือตามแบบที่กำลังวาดก็ได้



จากนั้นใส่เงาใต้พืชที่ลอยอยู่ในทิศทางตรงข้ามกับแสง ในที่นี้ผมใช้ Permanent Green Deep ผสมกับ
Crimson Red เพื่อให้ได้สีเชียวแก่เป็นเงาที่ตกกระทบลงบนผิวน้ำ



จากนั้นก็แต้มแสงลงบนพืชที่ลอยอยู่ โดยใช้สีเขียวอ่อน Permanent Green Light


เพิ่มแสงสะท้อนลงไปในน้ำ โดยใช้สีขาวอมฟ้าตวัดเป็นริ้วคลื่นบนผิวน้ำตามทิศทางการเคลื่อนที่ของ
ตัวปลาเพื่อเน้นอารมณ์เคลื่อนไหวให้ภาพดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น


เก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆก็เป็นอันเสร็จสิ้น



ขอสงวนลิขสิทธิ์เพื่อการศึกษาใน Blog นี้เท่านั้น
 ห้ามนำเนื้อหาและภาพไปใช้ประโยชน์ในทางพาณิชย์
ในรูปแบบใดๆ ยกเว้นจะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น


ฝากติดตามผลงานศิลปินเจ้าของความรู้
ด้วยนะครับ









2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ28 สิงหาคม 2561 เวลา 06:06

    ศิลปินเจ้าของผลงานคือใครค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผลงานเป็นของศิลปินเจ้าของบทความในBlog นี้ครับ
      ติดตามผลงานได้ที่ https://www.facebook.com/rakskhongart/
      ขอบคุณครับ

      ลบ