วันพฤหัสบดีที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2558

ศิลปะบนก้อนหินจากแม่น้ำโขง


"วันนี้ เมื่อวิถีชีวิตของผู้คนแห่งลุ่มแม่น้ำโขงเปลี่ยนไป   จะด้วยเหตุและปัจจัยใดก็ตามทั้งหมดย่อมส่งผลกระทบถึงกันอย่างทั่วถึงไม่เว้นแม้แต่
กรวดหินดินทราย..."
 



          ก้อนหินเป็นทรัพยากรทางธรรมชาติ มีอยู่ทั่วไปตามแหล่งต่างๆทั่วโลก มีลักษณะทางกายภาพที่แตกต่างกันไปตามลักษณะทางภูมิประเทศ ก้อนหินแม่น้ำโขง มีลักษณะเด่นที่งดงาม ด้วยรูปทรงและพื้นผิวที่มีเอกลักษณ์ จึงมักถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการตกแต่งอย่างแพร่หลาย ทำให้ปัจจุบันนี้ ก้อนหินตามแหล่งธรรมชาติมีจำนวนลดลงอย่างรวดเร็ว    การนำก้อนหินมาใช้ในงานศิลปะนั้นเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก ถ้าเทียบกับการนำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ เช่น การสร้างถนน,การถมที่,การทำพื้นผิวทางเดิน,การตกแต่งตามสถานที่ต่างๆอย่างโรงแรม,รีสอร์ท หรือแม้แต่บ้านพักอาศัย ซึ่งนับวันจะยิ่งได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นงานศิลปะบนก้อนหินนี้จึงเป็นเสียงสะท้อนของการอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมชาติอย่างรู้คุณค่า ถ่ายทอดรูปแบบผ่านเรื่องราวของช้างซึ่งเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของคนไทยมาตั้งแต่อดีต ทั้งนี้ด้วยลักษณะทางกายวิภาคของช้างที่สอดคล้องกันกับลักษณะทางกายภาพของก้อนหิน จึงกลายเป็นงานสร้างสรรค์ที่มี เอกลักษณ์ เป็นงานศิลปะที่สามารถเพิ่มมูลค่าก้อนหินธรรมดาให้เป็นของไม่ธรรมดา เป็นสิ่งระลึก บอกเล่าเรื่องราวความเป็นไปในชีวะวิถีแห่งลุ่มแม่น้ำโขง ได้เป็นอย่างดี   จึงมีคำถามตามมาว่า .....

วันนี้ คุณเลือกที่จะอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมชาติแบบไหน ?”




ไม่ใช่ทุกก้อนที่ใช่ สำหรับผมต้องคัดพิเศษ จากหนึ่งในร้อยเท่านั้น การเลือกหินต้องใช้ความรู้สึก ก้อนไหนใช่เขาจะส่งเสียงเรียกเราเอง บางก้อนดูผิวเผินเหมือนหินทั่วไป แต่ชั่วขณะจิตเหมือนเห็นเป็นตัวอักษรล้านนา  บางทีแอบขำตัวเองไม่ได้ คนขายเขาแอบมองเราอยู่ว่ามันกำลังหาอะไรในกองหินที่มีแต่หิน.
          วันนี้มาอุดหนุนชาวบ้าน อาชีพเก็บหินของชุมชนที่นี่เป็นอาชีพสงวนเฉพาะคนในชุมชนที่อยู่ในหมู่บ้านที่ทำมายาวนานหลายสิบปี ส่วนใหญ่ก้อนหินจะถูกส่งไปทั่วประเทศโดยความต้องการของตลาดของตกแต่งบ้าน,สวนรีสร์อท,โรงแรม ฯลฯ คิดแล้วน่าใจหาย เพราะปริมาณความต้องการเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ  ผมถามชาวบ้านที่นี่ว่าอีกกี่ปีหินที่นี่จึงหมด..? หลายคนที่นี่บอกว่าไม่มีวันหมดเพราะตราบใดที่น้ำโขงยังไหลผ่านหาดบ้านดอนมหาวัน.



        จากการพูดคุยสอบถามจึงได้ความรู้ว่า ก้อนหินไม่ได้อยู่กับที่อย่างที่เราคิด มันเดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งจากต้นกำเนิดแม่น้ำโขงตามลักษณะทางธรณีวิทยา และที่นี่จึงเป็นจุดสำคัญในภาคเหนือตอนบนที่ก้อนหินมาเกยตื้นก่อนจะถูกกระแสน้ำพรากไปจากฝั่งไทยสู่อ้อมกอดร่องน้ำตื้นของฝั่งลาว และวกกลับมาสู่ไทยอีกครั้งที่ อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย,หนองคาย,บึงกาฬ ,นครพนม ,
มุกดาหาร,อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี เป็นพรมแดนกั้นระหว่างไทย-ลาวส่งต่อกันสลับไปมาแล้วเข้าสู่ประเทศกัมพูชาและสู่ทะเลจีนใต้ประเทศเวียดนาม




ลุงบอก...สองมือผมมัดเหล็กมาทั้งชีวิต เวลาจับพู่กันมันคนละเรื่องเลย... ชาวบ้านดอนมหาวัน กับโครงการเพ้นท์หินสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นอาชีพเสริมเพื่อการอนุรักษ์บริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนตาม นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ได้นายอำเภอเชียงของร่วมกับเทศบาลเชียงของ กรมพัฒนาฝีมือแรงงานจ.เชียงราย และขัวศิลปะเชียงราย



สิ้นสุดการอบรมเพ้นท์หินเชิงพาณิชย์  23 ม.ค. 62 ให้กับกลุ่มชาวบ้านบ้านดอนมหาวันอ.เชียงของ. วันนี้ มอบของที่ระลึกทิ้งไว้เป็นขวัญกำลังใจ .. ล่วงหน้าหนึ่งคืนก่อนรู้ว่าจะได้มาทำภารกิจที่นี่ ผมฝันเห็นพญานาคสามเศียรผุดขึ้นจากดินมาอยู่ตรงหน้าเหมือนบอกว่ามีนัยสำคัญ พอได้มาที่นี่จึงรู้ว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ที่นี่เขามีศาลเจ้าปู่พญานาคราชที่ชาวบ้านเคารพศรัทธา...


เรามาทำประโยชน์ให้ชุมชนที่นี่พัฒนาฟื้นฟูจิตวิญญาณให้รู้สึกรักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติบ้านดินถิ่นเกิดที่เริ่มจะล่มสลายด้วยน้ำมือเศรษฐกิจแบบทุนนิยม มือใครยาวสาวได้สาวเอา.  วันนี้ลุงมัดเหล็กสายตาฝ้าฟาง ป้าเจ้าของร้านขายของชำ ลุงเป็งประธานกลุ่มผู้สูงวัย. สล่าก่อสร้าง  แม่บ้าน. วัยรุ่นว่างงาน และแม้แต่เจ้าของร้านอาหาร ที่สมัครใจเข้ามาเรียน ผิดกับภาพการอบรมที่เคยผ่านตามา ที่นี่ล้วนเป็นนักศึกษาต่างวัย ทุกคนได้วิชาไปแต่ก็อดห่วงไม่ได้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ..




ตลอดระยะเวลาที่ได้ให้ความรู้ผมก็เน้นย้ำเสมอว่า นักเรียนอย่าสับสน วันนี้ผมขายหินได้ก้อนละสามหมื่น ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะต้องทำอย่างนั้น มันไม่ใช่ตลาดของพวกเขา เรามาสอนทักษะความรู้เพื่อให้ทุกคนนำไปต่อยอดเป็นสินค้าของที่ระลึกจากหมู่บ้านสร้างรายได้เสริมที่สำคัญเป็นงานศิลปะที่มาจากหัวใจ ไม่จำเป็นต้องวาดสวยเหมือนฝรั่งในอินเตอร์เน็ตหรือทำแบบพวกกระบี่มือหนึ่ง มันคนละทางกัน ฝากพวกวางนโยบายอย่าได้สับสนกดดันมุ่งเป้าแบบหน้ามืด โลกของศิลปะมันกว้างกว่าที่พวกคุณจะนึกถึง ไม่ใช่เอะอะอะไรก็ให้เขาก็อบปี้ๆและคิดว่าจะขายได้ก้อนละสามหมื่น..
นั่นมันตลกอย่างแรง 




วันนี้เชียงของมีของดีแต่ถ้าไม่รู้จักใช้ก็เปล่าประโยชน์ เอาเป็นว่าแต่ละโครงการเริ่มต้นกันได้สวยแล้วอันนี้ขอยกย่องจากใจ แต่อย่าพลาดเรื่องสำคัญคือ สิ่งที่เป็นนามธรรมในหัวใจของทุกคน แล้วชุมชนของท่านจะไปได้ไกลกว่านี้แน่นอน ขอบคุณสมาคมขัวศิลปะที่ส่งผมกับอั๋นมาทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมโลกแห่งสุนทรียภาพให้กับชุมชนที่นี่ จากนี้หวังว่าเมล็ดพันธุ์ที่หว่านลงไปคงเติบใหญ่สวยงามในแบบของมัน.






ในวันที่ 6  พฤศจิกายน 2561 สำนักปลัดกระทรวงยุติธรรม โดยกองนวัตกรรมการยุติธรรม ได้จัดโครงการฝึกอบรมการเขียนลายหิน ให้แก่ผู้ต้องขังโครงการกำลังใจฯ ณ เรือนจำชั่วคราวดอยฮาง ซึ่งมีผู้ต้องขัง เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 10 คน






ฝากติดตามผลงาน
ศิลปินผู้รังสรรค์งานศิลปะลงบนก้อนหินได้ใน








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น